Published: 07/04/2025
ราคาทำรากฟันเทียมทั้งปากผู้สูงอายุในไทยปี 2025 เท่าไหร่?
รู้หรือไม่ว่าราคาทำรากฟันเทียมทั้งปากในไทยปี 2025 อยู่ระหว่าง 250,000 ถึง 660,000 บาท พร้อมคำแนะนำเลือกวัสดุและคลินิกอย่างไรให้คุ้มค่าและปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการฟันแทนถาวร.
ความเข้าใจเกี่ยวกับรากฟันเทียมทั้งปาก
รากฟันเทียมเป็นวิธีทดแทนรากฟันธรรมชาติด้วยวัสดุไทเทเนียมที่ฝังลงในกระดูกขากรรไกร เพื่อใช้เป็นฐานรองรับฟันปลอมที่เชื่อมกับครอบฟันหรือตะปูสะพานฟัน การทำรากฟันเทียมทั้งปากเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันแท้ทุกซี่ในช่องปาก เพื่อช่วยให้บดเคี้ยวอาหารได้ใกล้เคียงกับฟันแท้ และลดปัญหาการใช้ฟันปลอมทั่วไปที่อาจหลวม หรือลื่นเวลาพูดและเคี้ยว
ทันตกรรมรากฟันเทียมแบบเต็มปากมักใช้เทคนิคฝังรากเทียมจำนวน 4 ถึง 6 ตัวในแต่ละขากรรไกร เช่น All-on-4, All-on-6 เป็นต้น เพื่อรองรับแผงฟันปลอมติดแน่นที่มีความคงทนและรูปลักษณ์คล้ายฟันธรรมชาติ
ในปี 2025 นี้ เทคโนโลยีทันตกรรมรากฟันเทียมมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระยะเวลาการรักษาบางกรณีสั้นลง และลดขั้นตอนการผ่าตัดที่ซับซ้อน เช่น การใช้ระบบนำทางด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer-Guided Surgery) ที่ช่วยให้การฝังรากเทียมมีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยงและช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น ทั้งนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้อาจทำให้ราคาสูงขึ้นแต่แลกมาด้วยความคุ้มค่าและความปลอดภัยมากกว่า
ส่วนประกอบที่มีผลต่อราคาทำรากฟันเทียมทั้งปาก
ราคาที่ผู้รับบริการจ่ายสำหรับรากฟันเทียมทั้งปากประกอบด้วยหลายส่วน เช่น
- ราคาฝังรากฟันเทียมต่อต้น: โดยประมาณ 7,000 บาทต่อรากเทียมหนึ่งต้น (ราคานี้เป็นราคาเบื้องต้นและไม่รวมวัสดุครอบฟันหรือบริการเสริม)
- ค่าอุปกรณ์เสริม เช่น อะบัทเมนต์ (Abutment) ที่เป็นส่วนเชื่อมรากเทียมกับครอบฟัน
- ค่าครอบฟันหรือโปรเทซิส คือส่วนของฟันปลอมทดแทนฟันธรรมชาติ มีวัสดุหลากหลายให้เลือก เช่น ครอบฟันอะคริลิคคุณภาพสูง (KULZER®) และครอบฟันพอร์ซเลน (Porcelain) ซึ่งส่งผลต่อราคา
- ค่าตรวจวินิจฉัยเบื้องต้น เช่น การถ่ายภาพรังสี 3D CT Scan เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
- ค่ารักษาพิเศษหรือเทคโนโลยีทันสมัย เช่น ระบบคอมพิวเตอร์นำทาง (Navigation surgery) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัด ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นได้
นอกจากนี้ การเลือกวัสดุครอบฟันเพื่อความทนทานและความสวยงาม เช่น ครอบฟันพอร์ซเลนที่มีความใสและสีธรรมชาติ จะมีราคาสูงกว่าครอบฟันอะคริลิค แต่มีข้อดีที่ความคงทนและสวยงามระยะยาว ซึ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการฟันเทียมใช้งานได้นานและดูเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างราคาในคลินิกทันตกรรมบางแห่ง
ตัวอย่างราคาจากคลินิกทันตกรรมในประเทศไทย เช่น ศูนย์ทันตกรรมทันตกิจ (Thantakit) และ Bangkok International Dental Center (BIDC) มีดังนี้
- All-on-4/5/6 ราคาที่รวมวัสดุครอบฟันคุณภาพสูงและบริการทันตแพทย์เฉพาะทาง โดยประมาณอยู่ระหว่าง 340,000 ถึง 660,000 บาท
- ราคาฝังรากฟันเทียมต่อต้นประมาณ 7,000 บาท (ราคานี้โดยทั่วไปไม่รวมครอบฟันและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ)
- ราคาครอบฟันบนรากเทียมอยู่ในช่วงประมาณ 14,000 – 20,000 บาทต่อซี่ในบางคลินิก
สำหรับการทำรากฟันเทียมทั้งปากโดยใช้รากเทียม 4–8 ต้นต่อขากรรไกร ราคาจะขึ้นกับจำนวนรากและวัสดุที่เลือกใช้ โดยถ้าต้องการครอบฟันพอร์ซเลนที่มีความคงทนสูง ราคาจะเพิ่มตามวัสดุ คุณภาพ และเทคนิคติดตั้ง เช่น การใช้ระบบ CAD/CAM ผลิตครอบฟันที่พอดีและสวยงามที่สุด
ขั้นตอนและระยะเวลาการรักษา
การทำรากฟันเทียมทั้งปากมีขั้นตอนหลัก ดังนี้
- ตรวจประเมินและถ่ายภาพรังสี เพื่อวางแผนและประเมินสภาพกระดูก
- ผ่าตัดฝังรากฟันเทียมลงในกระดูกขากรรไกร
- รอให้รากเทียมเชื่อมติดกับกระดูก ใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน (ขึ้นกับสภาพกระดูกและเทคนิคที่ใช้)
- ผ่าตัดเปิดเหงือกและติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Abutment) บนรากฟันเทียม
- ติดตั้งครอบฟันถาวรหรือฟันปลอมติดแน่นบนรากเทียม
- นัดติดตามและปรับแต่งฟันเทียมอย่างสม่ำเสมอหลังทำ เพื่อช่วยรักษาความแข็งแรงและรูปลักษณ์
บางกรณีที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและเทคนิคเฉพาะ เช่น รากเทียมเคลือบพิเศษ (Surface-treated implants) เพื่อเร่งกระบวนการติดแน่นกับกระดูก อาจลดระยะเวลารอให้รากเทียมผสานกับกระดูกเหลือประมาณ 2-3 เดือน ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับฟันปลอมถาวรเร็วขึ้นและลดความไม่สะดวกระหว่างรอรักษา
การพิจารณาความเหมาะสมของผู้สูงอายุกับการทำรากฟันเทียม
- ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง หรือเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี สามารถพิจารณาทำรากฟันเทียมได้เหมือนผู้ป่วยทั่วไป
- ผู้สูงอายุกับโรคประจำตัวบางชนิด (เช่น เบาหวานควบคุมไม่ได้, ผู้ได้รับการฉายรังสีในช่องปาก, โรคเลือดบางชนิด) ควรได้รับการประเมินจากแพทย์และทันตแพทย์ร่วมกันก่อนทำรักษา
- ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดหรือต้านการแข็งตัวของเลือดควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับการทำรากฟันเทียม
- การดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ และมาตรวจติดตามกับทันตแพทย์หลังทำสำคัญต่ออายุการใช้งานรากฟันเทียม
- กรณีผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดี อาจต้องพิจารณาความเหมาะสมอย่างถี่ถ้วน เพราะถ้าไม่สามารถรักษาความสะอาดหรือเข้าใจขั้นตอนการดูแลฟันเทียม อาจเสี่ยงปัญหาติดเชื้อหรือรากเทียมหลวมระยะยาว
คำแนะนำสำหรับการเลือกทำรากฟันเทียม
- เลือกคลินิกทันตกรรมที่มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรากฟันเทียมและมีมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ผ่านการรับรองจาก JCI
- ปรึกษาและประเมินราคาละเอียด เพราะราคาอาจรวมหลายส่วนและมีค่าใช้จ่ายเสริมแตกต่างกันในแต่ละกรณี เช่น ค่าบูรณะกระดูก หรือค่าตรวจเพิ่มเติม
- พิจารณาคุณภาพวัสดุครอบฟัน เพื่อให้ได้ความทนทานและความสวยงามเหมาะสม โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องการความคงทนระยะยาว
- สอบถามตัวเลือกการผ่อนชำระหากต้องการความสะดวกทางการเงิน เพื่อวางแผนลงทุนอย่างมั่นใจ
- ทำความเข้าใจระยะเวลาและขั้นตอนกระบวนการรักษา รวมถึงการดูแลหลังรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และควรนัดติดตามผลเป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน เนื่องจากการดูแลหลังผ่าตัดเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่ออายุการใช้งานรากเทียม
วิธีการดูแลและรักษารากฟันเทียมเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
การดูแลหลังทำรากฟันเทียมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้รากฟันเทียมใช้งานได้นานและป้องกันภาวะแทรกซ้อน ปี 2025 มีคำแนะนำที่ควรปฏิบัติเพื่อรักษาสุขภาพช่องปากและรากฟันเทียมอย่างปลอดภัย ดังนี้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องการรับยา การทำความสะอาดช่องปาก และนัดหมายติดตามผล เพื่อป้องกันติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ดูแลความสะอาดช่องปากสม่ำเสมอ แปรงฟันอย่างถูกวิธี ใช้ไหมขัดฟันหรืออุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดซอกฟัน เพื่อป้องกันคราบจุลินทรีย์สะสมรอบรากเทียม อันเป็นสาเหตุโรคเหงือกหรืออักเสบบริเวณรากเทียม
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งเกินไปช่วงหลังผ่าตัดอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อไม่ให้แรงกดกระแทกรากเทียมในระหว่างรากเทียมยังไม่ติดกับกระดูก
- งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ช่วงพักฟื้น เนื่องจากสารพิษเหล่านี้ส่งผลเสียต่อเนื้อเยื่อเหงือกและกระดูก รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อและล้มเหลวของรากฟันเทียม
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและกระดูก เช่น อาหารที่มีแคลเซียม วิตามินซี และโปรตีนสูง ช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วและเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อรอบรากเทียม
- ตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อเช็กสภาพรากฟันเทียม ป้องกันโรคเหงือก และดูแลปัญหาต่าง ๆ ก่อนลุกลาม
- สังเกตความผิดปกติ เช่น เจ็บ ปวด บวม หรือเลือดออกบริเวณรากฟันเทียม และรีบพบทันตแพทย์ทันทีหากพบอาการเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามจนเกิดความเสียหายต่อกระดูกและเนื้อเยื่อรอบรากเทียม
การดูแลที่ถูกวิธีช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของรากฟันเทียมให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ปีขึ้นไป และทำให้การทำรากฟันเทียมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการฟันและคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2025 และต่อไป
สรุป
- ราคาทำรากฟันเทียมทั้งปากสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทยปี 2025 ประมาณ 250,000 – 660,000 บาท
- ราคาขึ้นกับจำนวนรากเทียม วัสดุที่เลือกใช้ และเทคนิคการรักษาที่ทันตแพทย์วางแผน รวมถึงเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ
- ขั้นตอนการรักษาใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน พร้อมนัดติดตามผลต่อเนื่องเพื่อรักษาคุณภาพรากฟันเทียม
- ผู้สูงอายุสุขภาพแข็งแรงและช่องปากดีมีโอกาสผลลัพธ์ดีเหมือนผู้ป่วยทั่วไป
- ควรเลือกคลินิกที่มาตรฐานสูงและทันตแพทย์มีประสบการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความคุ้มค่าการลงทุน
- การดูแลหลังทำรากฟันเทียมอย่างถูกวิธีสำคัญเพื่อให้อายุการใช้งานยืนยาวและดูแลสุขภาพช่องปากทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ผู้ที่สนใจทำรากฟันเทียมทั้งปากควรปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินสภาพช่องปากและวางแผนราคาที่เหมาะสม พร้อมข้อมูลครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจที่มั่นใจและคุ้มค่าการลงทุนในปี 2025 นี้
Sources
การยกเว้นความรับผิดชอบ: เนื้อหาทั้งหมด รวมถึงข้อความ กราฟิก รูปภาพ และข้อมูลที่มีอยู่ในหรือสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางเว็บไซต์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ข้อมูลและวัสดุที่มีอยู่ในหน้านี้ รวมถึงข้อกำหนด เงื่อนไขและคำอธิบายที่ปรากฏอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า.
Published: 07/04/2025